วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564

โควิดวัคซีนได้มาแล้ว ปัญหาจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีจะมีตามมาไหม

https://www.bbc.com/thai/thailand-56178246 

https://www.thairath.co.th/news/society/2045211

https://thestandard.co/coronavirus-vaccine-plan-3/



 วัคซีนล๊อต แรกมาถีงไทย 24 ก.พ. 64 Sinovac 200,000 โดส, AstraZeneca 117,000 โดส รวมทั้งหมด 311,700 โดส หากเดือนหน้า Sinovac มาอีก 8 แสนโดส,และ อีก 1 ล้านโดสในเดือนถัดไป เป็นจำนวนมากจริงๆ ดังนั้น เราจะต้องเตรียมการวางแผน กระจายวัคซีนและฉีดวัคซีนให้เร็วพอ ต้องฉีดวัคซีนตอนนี้ให้หมดภายในเดือน ก.พ.นี้ หรือให้มากที่สุด ถ้าคำนวนการฉีดต่อวันควรตกวันละ 10,390 โดส ล่าสุด วันที่ 6 มีนาคม 64 , 6 วัน ฉีดไปแล้ว 25,000 คน ตกวันละ 4000  กว่าคนเองครับแล้วจะทันหรือ, ปัญหาล่าช้าต่างๆต้องรีบจัดการแก้ใข อย่างเช่น วัคซีน AZ ต้องใข้เวลาตรวจสอบความปลอดภัยเกือบ 2 อาทิตย์ (Sinovac ไม่กี่วัน), สงสัยขั้นตอนการตรวจสอบวัคซีน มันจะทำให้ช้าเกินไปหรือเปล่า Sinovac ได้มาตรวจสอบแป๊บเดียวกระจายวัคซีนให้ฉีดแล้ว AZ..จำนวนน้อยกว่าใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์เลย..เจ้าหน้าที่เขาก็อยากฉีดของ AZ ทำไมไม่รีบแจกจ่ายให้ฉีดสักที...แล้วเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปถึงปลายปี 64  มีอีก 26ล้านโดส..บวกกับ35ล้านโดส.. ต่อไปวัคซีนมาเดือนละ 5- 10 ล้านโดสแล้วจะตรวจสอบกันนานเท่าไหร่ละครับกว่าจะส่งมอบไปฉีดได้ และการกระจายและการฉีดวัคซีนจะทำอย่างไรให้เร็วพออย่างมีประสิทธิภาพ เห็นทางแพทย์สาธารณสุข หัวหน้าฝ่ายกองวัคซีนบอกว่า เราสามารถจะฉีดได้ถึงเดือนละ 5 ล้านโด๊ส..ตกฉีดวันละแสนกว่าคนเลยนะครับ..จะทำได้หรือถ้าตัวเลข ณ. ปัจจุบันยังแค่นี้,ทาง สธ. ชี้แจงว่าจะเร่งฉีด 63 ล้านโดสที่วางแผนจัดซื้อไว้ ให้เสร็จสิ้นปี 64 จะฉีดให้เสร็จภายในปีนี้จะทำได้อย่างไร ต้องฉีดตกเดือนละ10  ล้านโดสจะเป็นไปได้ไหมครับ อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย ถ้าบริหารผิดพลาด อาจเกิดความเสียหาย ของสต๊อกวัคซีนจำนวนมหาศาล หากเก็บรักษาใว้ไม่ดีนะครับ แค่มองปัญหาล่วงหน้าชี้แจงให้ฟัง, อยากให้เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ ผลักดันให้สำเร็จลุล่วง เป็นกำลังใจให้นะครับ
 

https://pantip.com/topic/40569630 


วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564

การวางแผนจัดหาวัคซีนโควิดในประเทศไทย 80 ล้านโดส

 https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6068931

https://www.boi.go.th/index.php?page=demographic&language=th



          ตัวเลขจำนวนประชากรคนไทยมีประมาณ 65 ล้านคน จำนวนคนที่ฉีดวัคซีนหักกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปีลงไป..จะเหลือ 50 ล้านคนรวมกับประชากรคนต่างชาติอีก 5 ล้านคน ตกประมาณ 55 ล้านคน จำนวนที่ 70 เปอร์เซ็นต์ก็จะเหลือประมาณ 40 กว่าล้านคนนะครับ..สธ.เตรียมเพิ่มการจัดหาวัคซีนอีก 20 ล้านโดสรวมของเดิม 61 ล้านโดส.เป็น 80 ล้านโดส.ก็น่าจะเพียงพอนะครับ วัคซีนทั้งหมดที่จะจัดหา 80ล้านโดส..ต่อประชากร 40 ล้านคน..ดูสมเหตุสมผลดีครับขอชื่นชมแนวคิดและเป้นกำลังใจ ผลักดันให้สำเร็จนะครับ

          ปัญหามีอยู่ว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนเต็มที่ต่อเดือน5ล้านโดส(จากการบรรยายเรื่องวัคซีนแห่งชาติ)จริงๆแล้วก็อาจจะฉีดไม่ถึง..แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าการจัดการวัคซีนต่อเดือน 5 ล้านโดสให้เพียงพอต่ออัตราการฉีดวัคซีนจะทำได้ราบรื่นไหม.. 80 ล้านโดสจะใช้เวลาฉีดเร็วสุด 16 เดือน...หากมีการล่าช้าของการจะหาวัคซีน..ก็อาจจะนานออกไปอีกหลายเดือนเลยครับ

https://www.bmj.com/content/372/bmj.n162

           แต่มีข่าวดีจากการวิจัยเพิ่มเติมในการเว้นระยะห่างระหว่าง เข็ม1 และ 2 ให้นานออกไป 12 อาทิตย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนได้ดีขึ้น(AZ  เพิ่มจาก 70% เป็น 80%)การฉีดวัคซีนทั้งของไฟเซอร์และ modena มีแนวโน้มว่าจะฉีดห่างออกไปเช่นกัน..ถ้าเป็นแบบนี้นอกจากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้วครอบคลุมประชากรได้มากขึ้นด้วยครับ..ตัวอย่างประเทศไทยถ้าฉีดเดือนละ 5 ล้านโดสเดิมเราฉีดห่างกัน 1 เดือนเพราะฉะนั้นใน 2 เดือนเราจะครอบคลุมคนได้แค่ 5 ล้านคนแต่ถ้าเราฉีด2เข็มห่างไป 3 เดือนเราจะครอบคลุมคนได้ถึง 10 ล้านคนในช่วง2 เดือนแรก (เพิ่มขึ้น 100%)น่าจะเป็นข่าวดีนะครับสำหรับประเทศที่จัดหาวัคซีนได้น้อยอย่างประเทศไทย

https://pantip.com/topic/40560717

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ระหว่างวัคซีน 2 ตัว Sinovac กับ Astrazeneca เลือกใช้ตัวไหนดี

https://pantip.com/topic/40541625




1.Astrazenecaเป็นวัคซีนเชื้อเป็น (Viral vector vaccine)

ข้อดีคือสามารถกระตุ้นภูมิได้สูงทำให้มีประสิทธิภาพดีกว่า efficacy(70กว่า%) สูงกว่า(อัตราเจ็บป่วยน้อยกว่า)

ข้อเสีย ปฏิกิริยาข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจะสูงขึ้นตาม adverse reaction ,Allergic reaction(ในวัคซีน mRNAของPfizer,กับModerna มีปฏิกิริยารุนแรงถึงขั้นanaphylaxis..ต้องรอ 30 นาทีในโรงพยาบาลเพื่อเตรียมฉีดยาแก้ถ้ามีอาการ)

2.Sinovacเป็นวัคซีนเชื้อตาย( Live Attenuated vaccine)

ข้อดี ปฏิกิริยาหลังการฉีดวัคซีนจะมีน้อยกว่าAdverse reaction ในคนสูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถทนกับผลข้างเคียงเหล่านี้ได้ ก็จะปลอดภัยกว่าที่จะใช้วัคซีนตัวนี้

ข้อเสีย ประสิทธิภาพของวัคซีนก็จะลดลง( 50กว่า%) อัตราการเจ็บป่วยก็จะมีมากกว่าแต่ไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

สรุปว่า 

     Astrazeneca มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าป้องกันการเกิดโรคได้ดีกว่าเหมาะกับคนที่แข็งแรงทนรับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนได้ดีน่าจะเหมาะกับกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องสัมผัสกับผู้ป่วยมีโอกาสติดเชื้อสูงคือกลุ่มคนด่านหน้านั่นเอง

       Sinovacมีความปลอดภัยสูงผลข้างเคียงไม่รุนแรงในคนสูงอายุสามารถทนรับได้ การกระตุ้นภูมิต้านทาน ขึ้นได้พอสมควรกับการป้องกันความรุนแรงของโรคลดอัตราการตายได้

     ตอนนี้รัฐบาลไทยวางแผนจะเอา Sinovacไปฉีดในกลุ่มคนทำงานด่านหน้าซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่..ที่ประเทศฟิลิปปินส์เขาไม่เอาSinovacไปฉีดในกลุ่มคนทำงานด่านหน้าเลยครับเพราะเหตุผลที่การกระตุ้นภูมิไม่มากพอที่จะป้องกันโรคได้ดีเท่าที่ควร..โอกาสเจ็บป่วยก็จะสูงทำให้ขาดกำลังคน..

     การที่ผู้เชี่ยวชาญของไทยเสนอข้อมูลเก่าที่ทางอินโดนีเชียกำหนดให้ฉีดSinovacในกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 59 ปีเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องปัจจุบันทางอินโดนีเซียได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผลการทดลองเฟส 3 ยืนยันความปลอดภัยแล้วได้ Approved ให้ฉีดในกลุ่มสูงอายุได้แล้ว

     เราจะซื้อ Sinovacมาในราคาที่แพงกว่า astrazeneca ถึง 4 เท่า (20$ /5$)เราควรจะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ

https://newsinfo.inquirer.net/1398885/health-workers-seniors-cant-get-sinovac-shots

https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-indonesia-vaccine-idUSKBN2A60I0


วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สถานการณ์ การระบาดของโควิด ในประเทศ 10 ก.พ. 2564 ในมุมมองที่แตกต่างจาก ศบค.

COVID-19 update 
วันนี้ขอเสนอการรายงานแบบใหม่ในมุมมองที่แตกต่างจาก ศบค. ครับจะเอาเฉพาะข้อมูลสองแบบเท่านั้น
1.การระบาดในประเทศที่ไม่รวมจังหวัดสมุทรสาคร
2.การระบาดเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร
        ส่วนรายงานการระบาดทั้งประเทศที่ ศบค.รายงาน..มันทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดมาตลอดเพราะเป็นอิทธิพลจากจังหวัดสมุทรสาครเป็นส่วนใหญ่ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์โดยรวมของประเทศ..จะมีแต่ตารางและกราฟให้ดูเท่านั้นนะครับ, ส่วนผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศจะไม่พูดถึงนะครับเพราะไม่เกี่ยวกับการระบาดในประเทศ
     สถานการณ์ในประเทศ(ไม่รวมสมุทรสาคร)โดยรวมดีขึ้นมากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่(25ราย),ผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุก(2ราย)และผู้ติดเชื้อที่มาจากการเฝ้าระวังและบริการทางสาธารณสุข(10ราย)ตัวเลขลดลง, แนวโน้มของกราฟเป็นขาลงทั้งหมด
        สถานการณ์ในจังหวัดสมุทรสาครผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง(132ราย),ผู้ติดเชื้อที่ไปโรงพยาบาลลดลง/(28ราย)ส่วนผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกเพิ่มขึ้น(104ราย)จากการเพิ่มจำนวนการตรวจเชิงรุกเพิ่มขึ้น(2917ราย)โดยรวมสถานการณ์ ดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไปโรงพยาบาล(มีอาการป่วย), แนวโน้มมันลดลง(กราฟเส้นสีส้มลดต่ำลง) 
        โดยรวมสถานการณ์ทั่วไปดีขึ้นนะครับรอให้ได้วัคซีนมาแล้วเร่งฉีดในกลุ่มประชากรกลุ่มเสี่ยงกับบุคลากรทางการแพทย์ตัวเลขก็น่าจะดีขึ้นไปเรื่อยๆนะครับระหว่างนี้ต้องให้ความระมัดระวังเหมือนเดิม, สวมหน้ากากรักษาระยะห่าง,กินร้อนช้อนกลาง,ระมัดระวังความสะอาดก่อนการเข้าหาผู้ป่วยที่อ่อนแอ,ผู้สูงอายุ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ชุมชนแออัดก็จะเป็นการดีนะครับ


https://pantip.com/topic/40512928






       สถานการณ์ในประเทศโดยรวมมันไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย ปชช.ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับ ศบค. จนตัวเลขผู้ป่วย covid ลดลงมามากแล้ว ทำไมผู้ว่ากทม.จะต้องออกคำสั่งให้หยุดจัดงานตรุษจีนที่เยาวราชด้วย..แทนที่เศรษฐกิจจะได้เดินหน้ามีเงินหมุนเวียนในระบบดีขึ้นกลายเป็นว่าสิ่งที่พยายามทำมาเหมือนสูญเปล่าควรที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส..เสียดายจริงๆครับ..
     แต่กลายเป็นว่ามีการจัดเทศกาลตรุษจีนในห้างกันชักชวนคนไปเที่ยวก็ยังดีนะครับ ที่ไม่ให้หยุดจัดไปด้วย..

     ส่วนกราฟรายงานสถานการณ์จากข้อมูลของ ศบค. จะคล้ายๆของจังหวัดสมุทรสาครครับ มันเบี่ยงเบนให้ข้อมูลทั้งประเทศดูแย่ เพราะเหมือนเอาจังหวัดสมุทรสาคร มาเป็นตัวแทนของประเทศ ผมว่ามันไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไร ถ้าสมุทรสาครระบาดหนักมาก ก็ควบคุมพิเศษไป ปิดเมืองไปก่อน เหมือนเป็น อู่ฮั่น เมืองไทย แต่จังหวัดอื่นผ่อนคลายเถอะครับ เศรษฐกิจต้องเดินไปข้างหน้าได้แล้วครับ

               

                             

                

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564

การตรวจเชิงรุกปูพรม100%ในกลุ่มแรงงานสมุทรสาคร ควรทำต่อหรือไม่

https://www.matichon.co.th/covid19/news_2546799

 ขอแสดงความเห็นครับ
1.การติดเชื้อในประชากรทั่วไปที่ไม่แสดงอาการเป็นการสร้าง herd immunity ที่ควรจะเป็นในการป้องกันการระบาดระยะยาวแต่ถ้ามีความเสี่ยงที่จะทำให้คนมีสุขภาพร่างกายอ่อนแอติดเชื้อแล้วมีอาการป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิตจึงเป็นการเสี่ยงเกินไปดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงเป็นตัวเสริมที่เพิ่มเข้ามาในการรับประกันว่าผู้ที่มีความเสี่ยงเมื่อได้รับวัคซีนแล้วจะไม่มีอาการรุนแรงครับ
     ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วก็อาจจะมีการติดเชื้อโดยไม่มีอาการ, ถ้ายังตรวจเชิงรุกต่อ ก็ยังคงเจออยู่ในชุมชนแน่นอนครับ
2.ถ้าเรายังตรวจเชิงรุกแบบไม่จำเป็น เช่นตรวจในสถานการณ์ที่การระบาดไม่รุนแรงในชุมชน,จำนวนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลก็ยังรองรับผู้ป่วยได้สบาย,อัตราการตายก็น้อย แล้วยังมุ่งตรวจในกลุ่มคนแข็งแรงทั่วๆไปโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อบ่งชี้ของการสืบสวนการระบาดใดๆในชุมชนมันจะไม่คุ้มเหนื่อย,สิ้นเปลืองงบประมาณและทำให้การดำเนินกิจการต่างๆในสังคมหยุดชะงักได้เพราะถ้าเกิดเจอผู้ติดเชื้อแล้วทุกคนจะต้องถูกกักตัวเวลา 14 วันอย่างนี้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปไม่ได้หรอกครับ
      หลังจากหมดกลุ่มคนงานสมุทรสาคร 6 -8 หมื่นคน แล้วไม่รู้ว่าเขาจะพยายามตรวจเชิงรุกในพื้นที่ใดอีกโดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะพอแล้วนะครับเราสามารถจะประหยัดเงินค่าตรวจนำไปจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนในชุมชนจะดีกว่าราคาก็ถูกกว่าค่าตรวจด้วยครับ

      รายงานสถานการณ์โควิด 29 ธันวาคม 2564



COVID-19 Update – ยอดผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ ( 29 ม.ค. 64) อยู่ที่ 802 ราย
1.จากระบบเฝ้าระวังและบริการสาธารณสุข 89 ราย 
2.คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 692 ราย
3. State quarantine 19 ราย 
4.ผป.เดินทางเข้าปท.ที่ไม่เข้ที่าสถานกักกันโรคอีก 2 ราย
ยอดติดเชื้อสะสม 17,023 ราย 
   วันนี้ยอดผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นพอสมควร, แต่ยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชนลดลงเล็กน้อย(กราฟเส้นสีแขียวสูงขึ้นแต่กราฟเส้นสีแดงลดลงเล็กน้อย), ยอดผู้ติดเชื้อจากการเฝ้าระวังและการบริการทั่วไปเพิ่มขึ้นอีกแล้วครับ(กราฟเส้นสีส้มสูงขึ้น)
     การตรวจเชิงรุกเป็นตัวเลขของคนงานต่างชาติส่วนใหญ่และคนไทยบางส่วนในโรงงานที่ไม่มีอาการแข็งแรงดีครับ(ส่วนใหญ่ที่สมุทรสาคร)ตัวเลขลดลงเล็กน้อย, แต่ส่วนตัวเลขที่ได้จากการเฝ้าระวังและการบริการ(น่าจะเป็นกลุ่มที่เข้าข่าย p u i)เพิ่มขึ้นมากอีกแล้ว  แนวโน้มของกราฟเส้นสีส้มside wayครับ รอดูท่าทีว่าจะขึ้นหรือลงอีกสัก 2-3 วัน
     ตัวเลขในสถานกักกันโรค..ไม่มีผลต่อการระบาดในชุมชนนะครับขอข้ามไปเลย
    โดยรวมสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อจากการเฝ้าระวังและบริการเพิ่มขึ้นมาครับ แสดงว่าการระบาดในชุมชนยังไว้ใจไม่ได้ว่าจะมีแนวโน้มขึ้นหรือลงรอดูต่อไปแต่การตรวจเชิงรุกในจังหวัดสมุทรสาครที่มีการเพิ่มการตรวจเข้มข้นขึ้นจากเดิมวันละ 4-5พันราย,ขึ้นมาเป็นวันละมากกว่า 10,000 รายแล้ว ,ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกเริ่มลดลงครับ( เริ่มตรวจปูพรม 100% ในกลุ่มคนงาน 6-7หมื่นคนตรวจวันละหมื่นกว่าคน 4 วันเข้าไปแล้ว )จำนวนที่เจอก็จะลดลงไปเรื่อยๆครับ..ถ้าข้อสันนิษฐานของผมถูกต้องวันพรุ่งนี้ยอดจะต่ำไปเยอะเลยครับรอดูต่อไปอีก 2-3 วันครับ
     ผมยังให้ความสำคัญกับผู้ติดเชื้อจากการเฝ้าระวังและบริการ(ผู้ป่วยpui,)กราฟสีส้มอยู่นะครับมันแสดงถึงการระบาดในชุมชน ตัวเลขเพิ่มมากขึ้นแบบนี้ไม่ค่อยดีครับ, ส่วนการตรวจเชิงรุกมันลดลงเล็กน้อย, มันไม่ได้บอกถึงความรุนแรงของการระบาดในชุมชนสามารถกักกันโรคในโรงงานFQได้อยู่แล้วโดยรวมสถานการณ์วันนี้ผมถือว่าso far so goodนะครับ


วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564

ชนิดของวัคซีนโควิด อธิบายแบบง่ายๆ

ชนิดของวัคซีนอธิบายแบบง่ายๆ

  • Sinovac วัคซีนเชื้อตายเอาไวรัสทั้งตัวใส่เข้าไปในร่างกายกระตุ้นการสร้างภูมิ 13-29 $ต่อโดส ฉีด 2 ครั้ง
  • Astrazeneca วัคซีนนำเอาไวรัสไข้หวัดธรรมดาในลิงชิมแปนซีมาตัดแต่ง DNA โดยใส mRNAที่สร้างโปรตีนส่วนหนามของโควิดเข้าไปโดยโปรตีนชนิดนี้จะกระตุ้นการสร้างภูมิขึ้นมาโดยที่ตัวไวรัสพาหะไม่มีอันตรายรุนแรงต่อร่างกาย 4-5 $ ต่อโดส ฉีด 2 ครั้ง
  • BioNtech, Moderna วัคซีน mRNAเป็นแค่ส่วนเสี้ยวเดียวของ RNA ที่ใช้ในการสร้างโปรตีนหนามแหลม spike protein ของไวรัสที่มีส่วนกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโดยไม่มีผลอันตรายรุนแรงต่อร่างกาย..และที่สำคัญมันเป็นการสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของไวรัสใดๆเลยฉีดเข้าไปในร่างกาย 

         จะเห็นว่า  Sinovac เป็นวัคซีนเทคโนโบยีเก่า ประสิทธิภาพไม่ได้ดีมากมาย แต่ขายแพงไม่สมราคา ไม่น่าจัดซื้อมาใช้ บุคคลากรการแพทย์จะกล้าฉีดหรือ...สอบถามหมอ พยาบาลหลายคน ส่ายหัว

Sinovac วัคซีนจีน ราคามาถึงไทยออกมาแล้วครับ



Sinovac price

Indonesia Rp 200,000 = 13.57 $..= 408.8 bth

ไทยซื้อราคา 641bth.ขนาด CP ถือหุ้น 15% ของ บริษัทจีน..รับไม่ได้ครับ   เราจ่ายแพงกว่า 614 - 408 = 206 บาท คูณ2ล้าน ก็ตกประมาณ 400 ล้าน บาท เป็นเงินทอน 

     ลองเทียบค่าเงิน 30บาท ต่อ1$

614/30 = 20.47 $ 

Sinovac 2 โดส 41 $

Astrazeneca ราคากลาง4-8 $

คิดประมาณราคาที่ 6 $ ฉีด 2 โดส =12 $

ราคาต่างกัน 41-12= 29 $ เท่ากับ 870 บาท

2ล้านโดส ฉีด2ครั้งต่อคน ได้ฉีด1ล้านคน จำนวนเงินงบประมาณที่ต้องเสียเพิ่มขึ้น  870 ล้านบาท

     คนที่ฉีด Sinovac แล้วเขาจะอนุญาติให้ดำเนินชีวิตปกติได้หรือ โดยไม่ต้องอยู่ในกฎระเบียบการควบคุมโรค..การทำธุรกิจ..เดินทาง..เขาจะปลดlock down ปท.ไหม..ถ้าสถานกาณ์..มันดีขึ้นเขาก็ปลดเอง..ถ้ายังไม่ดี..ถึงฉีดวัคซีีน1ล้านคน..มันก็ต้องlockdown อยู่ดี..

     เรื่องนี้มันผิดปกติตั้งแต่การกลับคำพูด..และยังเร่งดำเนินโครงการที่เร่งด่วนมากๆๆๆ.

     CPเขาไม่สนเงินส่วนต่างแค่นี้หรอก..ไอ้คนกลาง..เดินเรื่องนี้มันได้ไปครับ เขาเรียกเงินทอนหาไอ้คนกลางให้เจอ..CPเขาไม่ผิด..แต่โดนใช้ให้ดิวกับจีน..เขาคงได้แค่ราคาต้นทุน 

ถ้าเทียบราคากับ อินโด ห่างกัน 614-208 = 206 บาท 2ล้านโดส เงินทอนน่าจะมากกว่า  400 ล่าน