วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564

โควิดวัคซีนได้มาแล้ว ปัญหาจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีจะมีตามมาไหม

https://www.bbc.com/thai/thailand-56178246 

https://www.thairath.co.th/news/society/2045211

https://thestandard.co/coronavirus-vaccine-plan-3/



 วัคซีนล๊อต แรกมาถีงไทย 24 ก.พ. 64 Sinovac 200,000 โดส, AstraZeneca 117,000 โดส รวมทั้งหมด 311,700 โดส หากเดือนหน้า Sinovac มาอีก 8 แสนโดส,และ อีก 1 ล้านโดสในเดือนถัดไป เป็นจำนวนมากจริงๆ ดังนั้น เราจะต้องเตรียมการวางแผน กระจายวัคซีนและฉีดวัคซีนให้เร็วพอ ต้องฉีดวัคซีนตอนนี้ให้หมดภายในเดือน ก.พ.นี้ หรือให้มากที่สุด ถ้าคำนวนการฉีดต่อวันควรตกวันละ 10,390 โดส ล่าสุด วันที่ 6 มีนาคม 64 , 6 วัน ฉีดไปแล้ว 25,000 คน ตกวันละ 4000  กว่าคนเองครับแล้วจะทันหรือ, ปัญหาล่าช้าต่างๆต้องรีบจัดการแก้ใข อย่างเช่น วัคซีน AZ ต้องใข้เวลาตรวจสอบความปลอดภัยเกือบ 2 อาทิตย์ (Sinovac ไม่กี่วัน), สงสัยขั้นตอนการตรวจสอบวัคซีน มันจะทำให้ช้าเกินไปหรือเปล่า Sinovac ได้มาตรวจสอบแป๊บเดียวกระจายวัคซีนให้ฉีดแล้ว AZ..จำนวนน้อยกว่าใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์เลย..เจ้าหน้าที่เขาก็อยากฉีดของ AZ ทำไมไม่รีบแจกจ่ายให้ฉีดสักที...แล้วเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปถึงปลายปี 64  มีอีก 26ล้านโดส..บวกกับ35ล้านโดส.. ต่อไปวัคซีนมาเดือนละ 5- 10 ล้านโดสแล้วจะตรวจสอบกันนานเท่าไหร่ละครับกว่าจะส่งมอบไปฉีดได้ และการกระจายและการฉีดวัคซีนจะทำอย่างไรให้เร็วพออย่างมีประสิทธิภาพ เห็นทางแพทย์สาธารณสุข หัวหน้าฝ่ายกองวัคซีนบอกว่า เราสามารถจะฉีดได้ถึงเดือนละ 5 ล้านโด๊ส..ตกฉีดวันละแสนกว่าคนเลยนะครับ..จะทำได้หรือถ้าตัวเลข ณ. ปัจจุบันยังแค่นี้,ทาง สธ. ชี้แจงว่าจะเร่งฉีด 63 ล้านโดสที่วางแผนจัดซื้อไว้ ให้เสร็จสิ้นปี 64 จะฉีดให้เสร็จภายในปีนี้จะทำได้อย่างไร ต้องฉีดตกเดือนละ10  ล้านโดสจะเป็นไปได้ไหมครับ อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย ถ้าบริหารผิดพลาด อาจเกิดความเสียหาย ของสต๊อกวัคซีนจำนวนมหาศาล หากเก็บรักษาใว้ไม่ดีนะครับ แค่มองปัญหาล่วงหน้าชี้แจงให้ฟัง, อยากให้เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ ผลักดันให้สำเร็จลุล่วง เป็นกำลังใจให้นะครับ
 

https://pantip.com/topic/40569630 


วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564

การวางแผนจัดหาวัคซีนโควิดในประเทศไทย 80 ล้านโดส

 https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6068931

https://www.boi.go.th/index.php?page=demographic&language=th



          ตัวเลขจำนวนประชากรคนไทยมีประมาณ 65 ล้านคน จำนวนคนที่ฉีดวัคซีนหักกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปีลงไป..จะเหลือ 50 ล้านคนรวมกับประชากรคนต่างชาติอีก 5 ล้านคน ตกประมาณ 55 ล้านคน จำนวนที่ 70 เปอร์เซ็นต์ก็จะเหลือประมาณ 40 กว่าล้านคนนะครับ..สธ.เตรียมเพิ่มการจัดหาวัคซีนอีก 20 ล้านโดสรวมของเดิม 61 ล้านโดส.เป็น 80 ล้านโดส.ก็น่าจะเพียงพอนะครับ วัคซีนทั้งหมดที่จะจัดหา 80ล้านโดส..ต่อประชากร 40 ล้านคน..ดูสมเหตุสมผลดีครับขอชื่นชมแนวคิดและเป้นกำลังใจ ผลักดันให้สำเร็จนะครับ

          ปัญหามีอยู่ว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนเต็มที่ต่อเดือน5ล้านโดส(จากการบรรยายเรื่องวัคซีนแห่งชาติ)จริงๆแล้วก็อาจจะฉีดไม่ถึง..แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าการจัดการวัคซีนต่อเดือน 5 ล้านโดสให้เพียงพอต่ออัตราการฉีดวัคซีนจะทำได้ราบรื่นไหม.. 80 ล้านโดสจะใช้เวลาฉีดเร็วสุด 16 เดือน...หากมีการล่าช้าของการจะหาวัคซีน..ก็อาจจะนานออกไปอีกหลายเดือนเลยครับ

https://www.bmj.com/content/372/bmj.n162

           แต่มีข่าวดีจากการวิจัยเพิ่มเติมในการเว้นระยะห่างระหว่าง เข็ม1 และ 2 ให้นานออกไป 12 อาทิตย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนได้ดีขึ้น(AZ  เพิ่มจาก 70% เป็น 80%)การฉีดวัคซีนทั้งของไฟเซอร์และ modena มีแนวโน้มว่าจะฉีดห่างออกไปเช่นกัน..ถ้าเป็นแบบนี้นอกจากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้วครอบคลุมประชากรได้มากขึ้นด้วยครับ..ตัวอย่างประเทศไทยถ้าฉีดเดือนละ 5 ล้านโดสเดิมเราฉีดห่างกัน 1 เดือนเพราะฉะนั้นใน 2 เดือนเราจะครอบคลุมคนได้แค่ 5 ล้านคนแต่ถ้าเราฉีด2เข็มห่างไป 3 เดือนเราจะครอบคลุมคนได้ถึง 10 ล้านคนในช่วง2 เดือนแรก (เพิ่มขึ้น 100%)น่าจะเป็นข่าวดีนะครับสำหรับประเทศที่จัดหาวัคซีนได้น้อยอย่างประเทศไทย

https://pantip.com/topic/40560717